จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

Link blog

Link blog  ของๆเพื่อนๆม.4/2

No 1 :
No 2 : http://freewab42.blogspot.com/
No 3 :
No 4 : http://peatarn.blogspot.com/
No 5 : http://pompampkppf
No 6 : http://nujunenongnapas.blogspot.com/
No 7:
No 8:
No 11 : http://stdworkm45.blogspot.com/
No 12 : http://game22223.blogspot.com/
No 13 : http://supermakebam.blogspot.com/
No 14 : http://ponglist.blogspot.com/
No 16 : http://jenjira123.blogspot.com/
No 17 : http://pimonpakchok.blogspot.com/
No 18 : http://kfjgo.blogspot.com/
No 19 : http://kaewer.blogspot.com/
No 20 :
No 21 : http://paitong4x400m.blogspot.com/
No 22 : http://with-me-love.blogspot.com/
No 23 : http://ing789.blogspot.com/
No 24 : http://ttdialogue.blogspot.com/
NO 25 : http://ningpassword.blogspot.com/
No 26 : http://freeweb4226.blogspot.com/
No 27 : http://somoo13.blogspot.com/
No 28 : http://usapetch.blogspot.com/
No 29 :http://tew4229.blogspot.com/
No 30 :
No 31 :
No 32 : http://buddyyyyy.blogspot.com/
No 33 :
No 34 :
No 35 : http://carcap.blogspot.com/
No 36 :
No 37 :
No 38 : http://yungkaoaboutme.blogspot.com/
No 39 :
No 40 :


เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

แดอารีวันที่ 17/09/12 โอยย ทำงานแดอารี่ผิดต้องทำใหม่ );

17/09/12

วันนี้ก็มา ร.ร. ตามปกติแล้วก็ทำงานกลุ่มชีวะกับเพื่อน แต่มาถามเพื่อนว่างานคอมทำยังไง? เพื่อนก็บอกว่าทำงี่ๆ แล้วเอ่อ ดันทำผิดก็ต้องมานั่งทำใหม่ ก็ดี); เลยมาเขียนมาพินใหม่อีกรอบ  หลายๆวันที่พิมไปก็คือพิมใหม่ทั้งหมดเพราะอันเก่าทำผิด เสียใจ อุสานั่งพิมๆๆๆๆๆๆ แล้วก็ดันโง่ทำผิด  แงมมม
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

แดอารี่วันที่ 16/09/12

16/09/12

เอิ่มม  วันนี้ฝ้ายกลับบ้านไปละแล้วก็ว่าจะทำงานนั้นนี้ต่ิ แต่-.- ขี้เกลียดก็เลยไม่ทำ อิอิ นอนๆๆนั่งๆเล่นๆ  เบื่อหนายชีวิตมากมายยยยยย 
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

แดอารี่ วันที่15/09/12

15/09/12  

  วันนี้ได้ไปดูที่เรียนกับฝ้าย(เพื่อนที่รร.มานอนที่บ้าน ) ได้เที่ยวนั้นนี้ดีมากสบายใจ สนุกและก็ทำงานของอาจารย์ฝรั่งเสร็จแล้วด้วย เหนื่ิย้ว่ิมากกกก 
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

แดอารี่

วันที่ 14 /09/12 

 ในวันนี้ได้ทำงาน ได้สอบเหนื่อยสอบไรไม่รู้เยอะแยะ พอช่วงเย็นก็สอบซ่อมวิทอีก เฮ้อ ชีวิตมอปลายเม่งรำบากแท้ละ ): แล้วตอนนี้ก็มานั่งทำของแรมเซล อาจารย์ฝรั่ง พันคำ คำ สั่งมาได้ไงเนี่ยยยตั้งพันคำ ส่งอาทิตย์หน้าอีก จะบ้าตาย ตอนนี้ทำได้แค่ 300 กว่าคำ-.- ชาตินี้ก็คงไม่เสร็จถ้่าจะให้เสร็จคงต้องทำทั้งคืนนน !! เหนื่อย! 



เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

บทความ ประโยชน์และโทษของคอมพิวเตอร์


ประโยชน์และโทษของคอมพิวเตอร์


ใช้สร้างงาน

  • จัดทำรายงาน
  • สร้างงาน
  • นำเสนอ

ใช้ติดต่อสื่อสารและค้นหาความรู้

  • ส่งอีเมล
  • ค้นหาข้อมูล
  • ศึกษาบทเรียน

ใช้เพื่อความบันเทิง

  • เล่นเกม
  • ฟังเพลง
  • ดูภาพยนตร์
  • ร้องเพลง

โทษจากการใช้งานคอมพิวเตอร์

ต่อร่างกาย

  • การใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานเป็นผลเสียต่อสุขภาพ

 ต่อสังคม

  • การถูกล่อลวง
  • การสูญเสียความสัมพันธ์กับครอบครัว  



เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

บทความ สูตรการยิ้มให้สวยกินใจ


 
ทำอย่างไรให้ยิ้มสวย(ใส)
สาวคนไหนอยากมีรอยยิ้มสวยพิมพ์ใจ  

การยิ้มสวยๆ เป็นกระบวนท่าไม้ตายที่ผู้หญิงทุกคนอยากจะมี เลยหาวิธีสร้างรอยยิ้มในฝันมาฝาก ซึ่งกว่าจะได้ก็ต้องเอาขนาด ความกว้าง และรูปทรงของฟันกับความกว้างของริมฝีปากมาคำนวณกันละเอียดยิบเลย จนได้หลักง่ายๆ ว่า รอยยิ้มที่สวยที่สุดจะต้องกว้างไม่เกินครึ่งหนึ่งของใบหน้า ริมฝีปากล่างและบนต้องอยู่ในระดับที่สมดุลกัน ฟันบนต้องเด่นกว่า และโผล่ฟันล่างออกมาให้เห็นแค่นิดหน่อยเท่านั้น
ส่วน เหงือกนี่ถือเป็นสิ่งต้องห้าม ให้เห็นน้อยเท่าไรยิ่งดี อนุญาตให้เห็นได้เกิน 2 มม. ก็พอ เพราะยิ่งเห็นมากก็ยิ่งทำให้เหมือนแม่แก้วหน้าม้า ที่สำคัญฟันหน้าทุกซี่ที่เอาออกมาท้าทายสายตาจะต้องไม่มีรอยแมงแกะ ไมมีพริกติด หรือมีร่องรอยอุด ปะ โป๊ว เก เบี้ยว บิ่นใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนสาวฟันเหลืองที่วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากหมอฟัน 
นักวิจัยเขาเตือนมาด้วยว่าห้ามฟอกสีจนฟันขาวเว่อร์เกินจริง เพราะเวลาฉีกยิ้มออกมา ความขาวกิ๊งผิดธรรมชาติของฟันจะดึงดูดความสนใจขอบเป้าหมายไปหมด จนไม่มีใครสนใจของหน้าสวยๆ ของคุณ สีฟันที่ขาวเป็นธรรมชาติและดูดีที่สุดคือขาวเท่ากับสีตาขาวของเจ้าของฟันนั่นละ


เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

บทความ การดูแลสมอง

การดูแลสมอง

  กินเพื่อสมองดี 

          หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า "กินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น" ทั้งๆ ที่รู้ แค่คนส่วนใหญ่ก็มักจะละเลยอาหารเช้า เพราะความเร่งรีบที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน การกินอาหารเข้านั้นจะทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยในเรื่องภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เนื่องจากอดอาหารมาตลอดคืนหากใครที่กินอาหารเช้าเป็นประจำก็จะทำให้ความจำดีขึ้น อย่างไรก็ตามควรเลือกกินอาหารที่ดี และงดอาหารขยะอย่างเด็ดขาด 

  คิดเพื่อสมองดี 

          ลองสังเกตว่าวันไหนที่เราตื่นขึ้นตอนเช้า แล้วรู้สึกว่าอารมณ์ดี วันนั้นเราจะรู้สึกดีไปตลอดวัน แต่ถ้าวันไหนเรารู้สึกเบื่อๆ หรือเจอเรื่องแย่ๆ แต่เช้า ความรู้สึกนี้ก็จะคิดตัวไปตลอดทั้งวัน ทำอะไรก็จะติดขัดไปหมด ดังนั้นหากอยากให้มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้น และทำให้สมองรู้สึกปลอดโปร่งคิดอะไรออก ก็ต้องคิดถึงแต่เรื่องดีๆ ส่วนเรื่องร้ายๆ ก็ลืมมันซะ 

  พักผ่อนหันหาอากาศบริสุทธิ์ 
          การพักผ่อนหย่อนใจหลังจากทำงานหนัก ถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะสมองจะได้พักผ่อนจากเรื่องสำคัญมากๆ และเรื่องราวความเครียดต่างๆ ที่ต้องเจออยู่เป็นประจำ ในหนึ่งปี อาจจะมี 2-3 วัน ที่คุณควรเลือก ที่จะเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อหาที่พักตากอากาศแบบสบายๆ เงียบสงบ ให้สมองได้พักผ่อน รวมทั้งหาอากาศที่ปราศจากมลพิษ เพื่อเติมพลังให้สมอง 

  เรียนรู้สิ่งใหม่ 
          การพัฒนาสมองให้ได้ผลดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ พยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา จะได้พัฒนาสมอง เช่น เทคโนโลยีใหม่ๆ เรื่องราวการแพทย์ใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งเมนูอาหารอร่อยๆ ที่คุณไม่เคยลอง ก็ถือว่าเป็นการทำให้สมองได้พัฒนาเช่นกัน การเล่นเกมส์ปริศนาอักษรไขว้ หรือสแครบเบิล ก็สามารถที่จะทำให้ความจำดีขึ้นได้ถึง 40% (จากผลการทดลองของอาสาสมัครในรายการบีบีซี ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2549) 

  เขียนหนังสือด้วยมือที่ไม่ถนัด 
          การเขียนถือเป็นการพัฒนาสมองได้เหมือนกัน เพราะสมองซีกซ้ายของเรานั้นเป็นส่วนบังคับการเขียน หากใครที่ถนัดมือไหนอยู่ ก็ให้หัดลองใช้มืออีกข้างเขียนหนังสือ หรือวาดภาพ เพื่อให้สมองได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพิ่มเติม และยังมีส่วนช่วยให้ความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นด้วย 

  ยิ้มไว้โลกจะแตกก็ยิ้มไว้ 

          เวลาที่เราทำอะไรก็ตาม หากเรายิ้มคนรอบข้างก็จะได้รับทราบถึงความรู้สึกดีๆ ของเรา แต่ควรจะยิ้มจากภายใน ไม่ต้องฝืน เพราะแววตาของรอยยิ้มนั้นหลอกกันไม่ได้ หากคุณรู้จักที่จะยิ้ม ก็จะทำให้สมองมีแต่เรื่องดีๆ มีความสุข การยิ้มอย่างเป็นประจำและต่อเนื่องมีโอกาสที่ร่างกายจะหลั่งเอ็นโดรฟินออกมา ซึ่งสารนี้จะไปออกฤทธิ์ให้ม่านตาขยายและทำให้ตาเป็นประกาย 

  หายใจช่วยให้สมองใส 

          การหายใจอย่างถูกวิธี มีส่วนช่วยพัฒนาสมองให้ได้ผลดีมากทีเดียว เพราะสมองของเรานั้นใช้ออกซิเจนมากถึง 20-25% ของทั้งหมดที่เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นหากเรารู้จักหายใจ เข้า-ออก ช้าๆ ลึกๆ เพียงแค่วันละ 15 นาที ก็จะทำให้สมองได้รับพลังงานอย่างเต็มเปี่ยม 

  เข้านอนแต่หัวค่ำ 

          ภายในร่ายกายคนเรามีนาฬิกาชีวภาพอยู่ ดังนั้นหากเราเข้านอนในช่วงเวลาที่ร่างกายหลั่งสารเมลาโทนิน ก็จะทำให้ร่ายกายและสมองได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ 

  นั่นสมาธิ จิตมีพลัง 

          การนั่งสมาธิ จะส่งผลให้สมองเข้าสู่ช่วงที่เป็นคลื่น Theta (ธีค้า หรือการที่สมองได้เข้าสู่การเข้าสมาธิแบบลึก) ทำให้สมองได้ผ่อนคลายสุดๆ และเกิด Mental Imagery (ภาพจินตนาการที่สมองสร้างขึ้น) ส่งผลให้สมองเกิดความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการที่ดีออกมา ทำให้สามารถแก้ปัญหาในเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างสร้างสรรค์ 

  เสริมวัตามิน กินไขมันดี 
          กินไขมันดี หรือที่เราเรียก โอเมก้า 3 เพื่อเข้าไปทดแทนส่วนของสมองที่เป็นในไขมันที่สึกหรอไป นอกจากนี้ยังมีวิตามินบำรุงสมองอื่นๆ อีก เช่น สารสกัดจากใบแปะก๊วย วิตามินบี1 บี6 บี12 น้ำมันพริมโรสที่ช่วยให้เซลล์ชุ่มน้ำและวิตามินซีที่ทำให้กระปรี้กระเปร่า 

 ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/30000
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

a bout me

a bout me

name : ภัทราภรณ์  อ่อนศริ
class  : m.4/2 no 18  (:

เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:
สมัครสมาชิก: ความคิดเห็น (Atom)